วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2552

I lost a friend.

เพื่อนของเราคนหนึ่งเสียชีวิต...

เมื่อเช้าตอนกำลังนั่งเรียนพาราเลล พี่จ๋าโทรศัพท์มาแจ้งข่าวร้ายนี้กับเรา พี่จ๋าบอกว่าพี่เปียเสียแล้ว วูบแรกตอนนั้นในหัวเราคือ เห้ย! บ้าเหอะ ไม่เชื่อ ตอนนั้นพี่จ๋าเองก็ยังไม่แน่ใจว่าข่าวนี้จริงหรือเปล่า อย่างน้อยเราสองคนก็เลือกที่จะไม่เชื่อแบบนั้น แต่แล้วมันก็คือความจริง พี่เปียจากไปแล้วจริงๆ ด้วยอุบัติเหตุรถยนต์ที่หาดใหญ่บ้านเกิดของพี่เขา เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

เรารู้จักพี่เปียตอนไปเวิร์คตอนปี 1 เราสนิทสนมกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ พี่เปียเป็นหนึ่งในไม่กี่คนตั้งแต่เราเคยพบมาที่ดูดีออกมาจากภายในอย่างแท้จริง ไร้หน้ากาก ไร้การเสแสร้ง มีเพียงความใสซื่อสะท้อนออกมาจากจิตใจอันบริสุทธิ์ พี่เปียพูดจาเนิบนาบ มีรอยยิ้มที่น่ารักบนใบหน้าเสมอๆ และเป็นคนอบอุ่นที่ทำให้ทุกๆ คนรู้สึกสบายเมื่ออยู่ด้วย จำได้ว่าเวลาเราหลงๆ ลืมๆ หรือมีเรื่องอะไรเดือดร้อน พี่เปียจะเป็นคนที่ห่วงใยในปัญหาของเราอย่างจริงจัง และเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเรามากที่สุดคนหนึ่ง

เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เราเพิ่งไปร่วมแสดงความยินดีที่พี่เปียสำเร็จการศึกษาจากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล บรรยากาศในวันนั้นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ การโอบกอดกัน ถ้อยคำแสดงความยินดี ถ้อยคำขอบคุณ และรอยยิ้มน่ารักอันคุ้นเคยของบัณฑิตใหม่ในกล้องถ่ายรูปของเรา ไม่นึกเลยว่านั่นจะเป็นรอยยิ้มสุดท้ายที่เราจะได้เห็น และคำร่ำลาในวันนั้นจะกลายเป็นการบอกลาครั้งสุดท้าย

สวรรค์คงมีงานล้นมือจริงๆ ถึงได้พรากพี่เปียไปจากพวกเราเร็วขนาดนี้ โลกคงจะเป็นที่ที่น่าอยู่น้อยลงในวันนี้เมื่อมีคนดีๆ อีกหนึ่งคนต้องจากไป และสวรรค์คงจะเป็นที่ที่น่าอยู่ขึ้นเมื่อได้มีโอกาสต้อนรับนางฟ้าคนใหม่ผู้มีจิตใจแสนงดงามคนนี้

หลับให้สบายนะครับ พี่เปีย

วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2552

50 (?) สุดยอดเพลงในวัยเรา

โครงงานเดี่ยวของเรานี่คิดการ (ต้องมี "ณ์" มั๊ยอะ) ใหญ่ไปหน่อย เพราะจะทำ Scrapbook รวบรวม 50 เพลงที่คนอายุอย่างเราๆ น่าจะรู้จัก แต่ถ้าไม่รู้จักก็ควรเสด็จไปหามาฟังให้เป็นบุญรูหู ทั้งนี้ก็เพราะว่าเราไม่ได้คัดแต่เพลงดัง เพลงฮิตเท่านั้น ปัจจัยที่ขาดไม่ได้เลยต้องเป็นเพลงที่ดีด้วยนะ คำว่า "ดี" เนี่ยก็แตกต่างกันไปตามบรรทัดฐานของแต่ละคนอีก แต่เราทำเองก็ต้องใช้บรรทัดฐานเราสิ สรุปว่าว่าเป็นการรวบรวม 50 (จะถึงหรือเปล่าหนอ) เพลงที่ดังและเราว่าดีนั่นเอง ใครไม่เห็นด้วยก็อย่าอ่าน หาได้แคร์ไม่ 555+

ก่อนอื่นเพื่อให้เข้าธรรมเนียมรายการหนูทำได้ น้องบีมก็ต้องขอแนะนำอุปกรณ์ที่ใช้ก่อนนะฮับ เลี่ยนเนอะ เขียนเหมือนเดิมดีกว่า ก็จะมีสมุดที่ซื้อมา กระด่งกระดาษขาวมั่งสีมั่งที่หาได้ตามอัตภาพ และทาดาห์! ที่ตัดกระดาษไฮโซที่ได้รับอุปการคุณจากเนย ขอบคุณมากๆ นะจ๊ะ เอ้อ! แล้วก็อย่าลืมกาวด้วยนะ

ส่วนอันนี้เป็นลิสต์เพลงที่เราทำมาอาทิตย์นึงได้ละ (ยังไม่ลงตัวซะทีซะงั้น) ก็ต้องขอบคุณเพื่อนๆ ที่ช่วยเสนอเพลงเข้ามา บางเพลงเราอาจไม่เอา ไม่ใช่เพราะเราไม่ใส่ใจนะ ความจริงคือ... เราก็ไม่ได้ใส่ใจจริงๆ อะแหละ (อย่ามองค้อน รู้นะว่าไม่พอใจ อิอิ)

ตัวอย่างหน้าที่เสร็จสมบูรณ์ก็จะเป็นอย่างนี้เด้อขรั่บเด้อ...

ที่เลือกทำอันนี้ก็เพราะว่าปกติเราชอบฟังเพลงมากๆ ทั้งไทย ญี่ปุ่นบ้าง เกาหลีบ้าง แต่จะเน้นเพลงฝรั่ง ดูใน blog นี้ก็น่าจะพอรู้อะนะ แล้วก็ชอบเขียนรีวิว วิจารณ์ หรืออะไรก็ตามแต่จะเรียก ก็แบบสมัครเล่นอะนะ สนุกๆ ขำๆ เพราะเราไม่มีความรู้ด้านดนตรีอะไรทั้งสิ้น แต่ว่าชอบฟัง ชอบตีความเท่านั้นเอง ก็หวังว่าคนที่หลงมาอ่านจะพอเข้าใจนะว่าเราต้องการจะสื่ออะไรออกไป

TCDC

วิชา Innovative Thinking คราวนี้ได้มีโอกาสไปทัศนศึกษาที่ TCDC หรือศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบที่ชั้น 6 เอ็มโพเรียม ดูหรูหราไฮโซมากกว่าที่จินตนาการไว้เล็กน้อย มาถึงแล้วไม่รอช้าก็เข้าไปชมนิทรรศการส่วนแรกก่อนเลย เป็นนิทรรศการเกี่ยวกับงานออกแบบของชาติต่างๆ นั่นเอง ตั้งแต่แก้วที่ออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจากฟยอร์ดโดยชาวฟินแลนด์ เก้าอี้สีสันสดใสโดยนักออกแบบชาวบราซิล สูทผู้หญิงของโคโค่ ชาแนลที่ปฏิวัติวงการแฟชั่นในฝรั่งเศส หรือว่าจะเป็นเก้าอี้หลอกตาที่เมื่อตั้งอยู่เฉยๆ ก็ดูเหมือนจะนั่งไม่ได้ แต่พอลองหย่อนก้นปุ๊บก็ ว้อลล่า! ยุบลงไปเลย ฮูเร่!

ตามที่คาดหมาย อาจารย์ก็มีกิจกรรมให้ร่วมสนุกตามเคย คราวนี้โจทย์มีอยู่ว่าสมมติโลกเกิดภัยพิบัติครั้งยิ่งใหญ่ มนุษยชาติในปัจจุบันสูญสิ้นไปหมด เหลือแต่มนุษย์ยุคใหม่แล้วตอนนี้ ให้ลองจินตนาการว่าสถานที่สำคัญต่างๆ ในยุคนี้จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร อย่าลืมว่าจะต้องลบขนบเก่าๆ ไปให้หมด ไม่มีข้อจำกัดทางสังคมใดๆ ทั้งนั้น ซึ่งกลุ่มเราก็ได้สถานีตำรวจล่ะ จะออกมาแบบไหนหนอ

ว่าแล้วก็ออกไปหาข้อมูลจากทั้งในห้องสมุดและนิทรรศการส่วนที่สองซึ่งผัดเปลี่ยนหมุนเวียนตามช่วงเวลา ซึ่งตอนนี้เป็นนิทรรศการปล่อยแสงที่ให้นักออกแบบจากทั่วประเทศมาจัดแสดงผลงานกันตามชอบใจ มีอยู่อันแบบว่าเจ๋งมากเลย เป็นกระดาษที่ตัดไว้แปลกๆ ดูไม่รู้เรื่องว่าคืออะไร แต่พอเปิดไฟที่ส่องจากด้านบนดู มันก็จะเกิดเงาเป็นรูปขึ้นมาล่ะ อย่างอันนี้ก็เป็นรูปพระพิฆเนศ สุดยอดจริงๆ (แต่มิได้นำพาเพราะไม่ได้เอามาใช้อะไรกับสถานีตำรวจหรอก แค่เอามาให้ดูเพราะเจ๋งดี ...อ้าว! ลืมหมุนรูปให้อะ หมุนหัวตามเอาเองนะ)

แล้วก็ถึงเวลานำเสนอ สถานีตำรวจออกแบบให้ลอยน้ำได้เพราะตอนนั้นน้ำคงจะท่วมโลกไปเยอะอยู่ ตำรวจก็ใส่ชุดว่ายน้ำไว้ข้างในเพื่อเตรียมพร้อมตลอดเวลา แถมนั่งบานาน่าโบ๊ตซะด้วยนะ เก๋เกิ๊น ส่วนนักโทษจะถูกขังในคุกใต้น้ำ และต้องใส่ชุดราตรีให้กรุยกรายเข้าไว้ จะได้หนียากๆ เพราะชุดมันหนักจนได้จมน้ำตายก่อน และไอเดียอื่นๆ อีกมากมายยากจะสาธยายหมด แต่จะบอกว่าเป็นการพรีเซนต์ที่มันส์มาก เราได้ออกไปพูดคู่กับป๋าบอลล่ะ สนุกสนานมากมายยังกะมายืนคุยเล่นกับเพื่อนหน้าชั้นเรียน แบบว่าไม่มีบทเลย คิดอะไรได้ก็พูด เดี๋ยวกำลังว่าจะไปตั้งคณะตลก ประมาณว่าเล่นเองขำเอง มีความสุขกันตามประสา

วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2552

My Chilling Birthday

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาอาจารย์มาสอนไม่ได้ บอกแค่ว่าจะมีเกมให้เล่นสนุกๆ ปรากฎว่าเป็นเกม 20 คำถามซึ่งสนุกจริงๆ ว่ะ เล่นแล้วมันเพลินมากมายอะ จำไม่ค่อยได้แล้วว่าคำถามถามว่าอะไรมั่ง แต่ทั้งหมดเป็นเหตุการณ์จำลองแปลกๆ แล้วให้คนในกลุ่มเดาว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร โดยรุมถามคำถามแบบใช่หรือไม่ใช่กับอีกคนในกลุ่มที่รู้คำตอบ รู้แต่ว่าเพลินมาก เล่นๆ ไปอ้าว! จบซะแล้ว เหอๆ

จะเขียนแค่นี้ก็สั้นไปหน่อย ใจจริงอยากจะเขียนเกี่ยวกับเด๊กซ์เตอร์อีก เมื่อวันเสาร์นั่งดูไป 4 ตอนจนถึงกับเก็บไปฝัน แต่ว่าคงไม่มีใครรู้เรื่องเพราะมีเราบ้าดูอยู่คนเดียว 555+ ดูจบหมดสต็อก 3 ซีซั่นแล้ว สนุกมากมายเหอะ มันจะสร้างปีละหลายๆ ซีซั่นไม่ได้เหรอ แง้! นี่ต้องรอยันปลายเดือนดูตอน Pilot ของซีซั่น 4 พร้อมที่อเมริกาไปเลยนู่นแน่ะ อีกตั้งนานอ่า ไม่เป็นไรเดี๋ยวดูซ้ำของเก่าเก็บรายละเอียดอีกรอบก็ได้ (บ้าไปแล้วกรู)

ระหว่างนี้เปลี่ยนอารมณ์คลั่งฆาตกรโรคจิตมาฟังเพลงมั่งดีกว่า ช่วงนี้แวดวงเพลงซบเซาเหลือเกิน ไม่มีอะไรน่าสนใจออกมาสักเท่าไหร่เลยตั้งแต่แจ๊คโก้เสีย แต่วันนึงตอนขับรถกลับบ้านได้ฟังเพลง My Bloody Valentine ของทาทา จริงๆ เคยเห็นเสียงชื่นชมมากมายจากในเนตมาบ้างแล้วกับเพลงนี้ แต่ได้พอฟังเอง เห้ย! นี่มันทาทาเหรอฟะ เห้ย! ฝรั่งโคตรๆ อะ สุโค่ย! ชีทำได้จริงๆ เพลงดีมาก ดีแบบใครได้ไปร้องมีแต่เกิดกับเกิด ฟังวนหกสิบรอบยังไม่เบื่อเลยอะ มันเรื่อยๆ ดี นี่เห็นจะโปรโมตที่อังกฤษก็หวังว่าชีจะดังเสียที ลุ้นกับยัยอูให้ดังก็ลุ้นไม่ขึ้นเลย เพราะถึงรายนั้นเพลงจะดีแต่แม่เอาแต่ชิวไม่ยอมเดินสายโปรโมต เข้าใจว่ามีเงินเยนเยอะรวยแล้ว คราวนี้ขอเชียร์คนไทยมั่ง ก็ของเขาดีจริงๆ ลองฟังดิ

So Random!

Random Stimulation เป็นอีกกลยุทธ์ในการได้มาซึ่งความคิดอันแปลกใหม่ เริ่มจากกำหนดปัญหา เลือกคำนามขึ้นมาสักคำแต่ต้องห้ามเปลี่ยนนะ จากนั้นก็หาแนวคิดจากคำนั้นมาประยุกต์กับปัญหาเพื่อให้ได้ไอเดียเยอะๆ กิจกรรมในการเรียนครั้งนี้จึงเป็นการสุ่มหาคำนามจากหนังสือที่แต่ละคนนำมา สิ่งที่เราคิดได้ก็ช่าง... เก๋ไก๋หาใดเปรียบจริงตั้งแต่บริการโทรศัพท์มือถือแบบใหม่ กับคำว่า "การดำนา" ทำให้ได้ความคิดที่ว่าลูกค้าที่โทรกลับบ้านเกิดที่ต่างจังหวัดก็โทรฟรีไปเล้ย ...นี่ ไปยันเกมออนไลน์แบบใหม่กับคำว่า "นกพิราบ" ที่ได้ความคิดว่าให้มีเกมออนไลน์ที่เล่นกันเองในหมู่ผู้โดยสารเครื่องบินแล้วกัน ...คิดไปได้นะเรา

Creativity is all about connecting things. ฟังดูแล้วก็จริงนะ ความคิดน่ะมันเกิดมาได้เพราะมีคนคิดมาก่อนแล้วล่ะ แต่การผสมผสานมันให้เกิดสิ่งใหม่ๆ ขึ้นนี่แหละที่ต้องอาศัยความสามารถอีกระดับหนึ่ง ...ความคิดสร้างสรรค์นั่นเอง

การหามุมมองที่หลากหลายทำได้โดยการระดมสมอง และการคิดแบบ 6 หมวก การระดมสมองหรือ Brainstorming คิดค้นโดย Alex Osborn นักโฆษณาชาวอเมริกา โดยมีกฎหลักๆ ว่าการระดมสมองในกลุ่มคนหลายๆ คนแต่ละครั้งจะต้องมีอิสระ ไอเดียที่ยิ่งแปลกก็นับว่ายิ่งดี ห้ามวิจารณ์กันและกัน และสำคัญที่ปริมาณไอเดียที่ได้ ยิ่งเยอะยิ่งเวิร์ค อาจารย์เปิดวีดีโอของทีมออกแบบรถเข็นชอปปิ้งรุ่นใหม่จาก IDEO วิธีการทำงานของเขาดูกระตือรือร้นกันดีแถมผลลัพธ์ก็ว้าว! คิดได้อะ เป็นรถเข็นที่แจ่มจริงๆ ส่วนการคิดแบบหมวก 6 ใบซึ่งได้แก่หมวกสีขาว ขำ แดง เหลือง เขียว และน้ำเงินก็จะทำให้เราได้ลองสวมวิญญาณของบุคลิกหลายๆ อย่างในแต่ละบุคคล ไล่เรียงไอเดียออกมาตามสีของหมวกที่ใส่ตอนนั้น ก็จะได้ไอเดียออกมาเพียบไว้ให้ใช้สอยแถมยังเป็นไอเดียที่มีแง่มุมต่างกันไม่ซ้ำซาก