1. ท่านเรียนรู้อะไรบ้างจากการฝึก Juggling
ผมได้เรียนรู้ว่าไม่มีอะไรที่ยากเกินไปถ้าเพียงได้ลองทำ ผมไม่เคยคิดว่าจะโยนลูกบอล 3 ลูกโดยมือแค่สองข้างได้ในเวลาเดียวกัน แต่การฝึก Juggling ก็พิสูจน์แล้วว่าผมสามารถทำได้ถ้าเริ่มทำและฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าตอนนี้ผมจะยังโยนได้ติดต่อกันไม่กี่ครั้ง แต่นี่ก็นับว่ามากเกินกว่าที่ผมเคยคิดเอาไว้ตั้งแต่ต้นว่าไม่มีทางทำได้แน่นอน ผมยังเรียนรู้อีกว่าก้าวแรกของการทำสิ่งใดๆ ย่อมต้องเกิดความผิดพลาด เช่นในการฝึก Juggling ครั้งแรกที่ลองโยน 3 ลูกเลยก็พบว่าจะทำลูกตกอยู่เสมอ จึงต้องฝึกโดยลองโยนอย่างเดียวยังไม่ต้องใส่ใจกับการรับ หลังจากนั้นพอโยนคล่องแล้วจึงค่อยฝึกการรับอย่างค่อยเป็นค่อยไป นอกจากนี้การฝึก Juggling ยังต้องอาศัยความอดทนอย่างมาก เพราะทุกครั้งที่ทำลูกหล่นก็ต้องก้มลงไปเก็บ ฝึกแค่ไม่กี่นาทีก็ทำให้เหนื่อยได้เหมือนกับการออกกำลังกาย
2. ท่านชอบเนื้อหาหรือกิจกรรมใดมากที่สุด โปรดให้เหตุผล
ผมชอบกิจกรรมการนำเสนอที่ TCDC มากที่สุด เนื่องจากได้ออกไปเปลี่ยนบรรยากาศการเรียนนอกสถานที่ ได้มีโอกาสเรียนรู้จากนวัตกรรมและงานออกแบบที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์จริงๆ และพวกเราต้องทำงานเป็นกลุ่มในเวลาจำกัดเพื่อรวบรวมข้อมูลและทรัพยากรให้ได้มากที่สุด แล้วนำมาประกอบและสร้างเป็นแนวคิดใหม่ๆ จึงเป็นการเรียนที่แปลกใหม่มากสำหรับผม นอกจากนี้ในการนำเสนอ ผมยังได้มีโอกาสเป็นตัวแทนกลุ่มออกไปพูด ซึ่งสำหรับผมที่ปกติแล้วเป็นคนขี้อาย ไม่กล้าแสดงออกในที่สาธารณะ นี่นับเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก เพราะผมได้ออกไปพูดหน้าชั้นเรียนกับเพื่อนอีกคนหนึ่งซึ่งช่วยผมได้มากในการสร้างบรรยากาศที่เป็นกันเองและปราศจากความเครียด เหมือนมายืนเล่าเรื่องสนุกๆ กันสองคน พูดได้แบบไม่ต้องคิดมากและหัวเราะได้โดยไม่ต้องอายอะไร สำหรับผมการเรียนครั้งนี้จึงเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความสุขและได้ลองทำอะไรใหม่ๆ มากมาย
3. ท่านคิดว่างานมอบหมายในวิชานี้เป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับวิชาอื่นโดยเฉลี่ย โปรดให้เหตุผล
ผมคิดว่างานในวิชานี้เท่ากับวิชาอื่น แม้ว่าดูเหมือนจะมีงานมากกว่า แต่นั่นเป็นเพราะวิชานี้ไม่มีการสอบทั้งกลางภาคและปลายภาค ทำให้ในช่วงสอบผมสามารถทุ่มเทกับการอ่านหนังสือสำหรับวิชาอื่นได้เต็มที่ สำหรับงานย่อยๆ ที่มีตลอดเทอม รวมถึง Blog ที่ต้องเขียนทุกสัปดาห์ก็ถือว่าเป็นงานปริมาณที่มากกว่าวิชาอื่นเพียงเล็กน้อย แต่ก็เป็นงานที่ทำให้เสร็จได้โดยใช้เวลาไม่นานมากนัก ส่วนโครงงานทั้งเดี่ยวและกลุ่มก็เปรียบเสมือนเป็นงานที่ต้องส่งแทนการสอบปลายภาค ซึ่งก็มีความเหมาะสมดีแล้ว
4. จงอ่านบทความเรื่อง "บทเรียนจากเบิร์กเล่ย์" และเสนอกลยุทธ์ในการพัฒนาตนเองเพิ่มเติมอย่างน้อย 2 ข้อ
กลยุทธ์ข้อแรกคือ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเดิมๆ เป็นการลองทำสิ่งใหม่ๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไป คนเรามักจะเคยชินกับการปฏิบัติตัวแบบเดิมๆ เป็นเหตุให้เมื่อถูกบังคับให้ทำอะไรที่ตัวเองไม่เคยทำก็จะไม่กล้า ไม่ชอบ และยอมแพ้ในที่สุด การลองแวะไปทำอะไรแปลกๆ เริ่มจากนานๆ ครั้ง แล้วค่อยพัฒนาไปเป็นพฤติกรรมที่คุ้นชินและทำเป็นนิสัยก็จะแก้ปัญหาความกลัวนี้ได้ เช่น จากที่ปกติเป็นคนสนใจแต่เรื่องบันเทิง เล่นอินเตอร์เน็ตทุกครั้งก็เข้าไปอ่านแต่เรื่องดูหนังฟังเพลง ก็ลองเข้าไปอ่านข่าวสังคม เศรษฐกิจบ้างวันละครั้ง อาจเริ่มจากประเด็นใกล้ตัวที่สนใจ แล้วค่อยขยับไปอ่านข่าวในหมวดอื่นๆ จนในที่สุดก็จะได้รับรู้ข่าวสารทุกหมวดหมู่อย่างครบถ้วน และไม่รู้สึกอึดอัดอีกต่อไปในการสนทนา หรือการทำงานที่ต้องอาศัยข้อมูลในด้านอื่นๆ ที่ตนเองไม่ได้ชอบ
อีกกลยุทธ์คือ พยายามมองสิ่งต่างๆ รอบตัวและใช้สมองในการคิดให้มากขึ้น นี่คือสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ในทุกๆ กิจกรรมประจำวัน เช่น เมื่อนั่งรถไปเรียนหรือไปทำงาน ก็ลองมองสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้น สังเกตรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ตามสิ่งก่อสร้าง ข้อความบนป้ายโฆษณา ผู้คนที่เดินไปเดินมา แล้วคิดถึงสิ่งที่มองเห็นให้ลึกลงไป เพียงเท่านี้ก็จะเป็นการฝึกสมองให้ได้ทำงานอยู่ตลอดเวลา ทำให้ได้แนวคิดใหม่ๆ ที่สามารถนำไปใช้ในการทำงาน หรือเอามาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้ ยิ่งไปกว่านั้นในบางครั้งที่กำลังเผชิญปัญหาอะไรอยู่ก็ตาม การมองดูสิ่งต่างๆ รอบตัวและนำมาคิดก็อาจจะนำมาซึ่งหนทางแก้ไขปัญหาที่คิดไม่ตกนั้นก็ได้
5. ท่านคาดว่าจะได้รับเกรดอะไร จงให้เหตุผลอย่างละเอียด
ผมคาดว่าจะได้รับเกรด A เพราะผมเข้าเรียนวิชานี้ทุกครั้ง และในชั้นเรียนก็ให้ความสนใจในบทเรียนตลอดเวลา และพยายามมีส่วนร่วมในการตอบคำถามและเสนอความคิดเห็นอย่างสม่ำเสมอ ในกิจกรรมกลุ่มก็มีส่วนร่วมในการเสนอแนวคิดใหม่ๆ และแม้จะพูดไม่ค่อยเก่ง แต่ก็มักจะอาสาเป็นตัวแทนออกไปนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียนบ่อยๆ การบ้านก็ทำเสร็จสมบูรณ์และส่งในเวลาทุกครั้ง รวมทั้งเขียน Blog ตามที่กำหนดครบถ้วนทุกสัปดาห์ สำหรับโครงงานเดี่ยวผมก็ทุ่มเทใช้เวลาในการทำนานมากเพราะเป็นสิ่งที่ผมชอบและตั้งใจจะทำออกมาให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และในโครงงานกลุ่มผมก็มีส่วนร่วมในทุกกระบวนการทำ ตั้งแต่เสนอความแนวคิดจนถึงลงมือปฏิบัติให้ออกมาเป็นรูปเป็นร่าง ผมคิดว่าผมได้แสดงออกถึงความตั้งใจ เอาใจใส่ และทุ่มเทอย่างเต็มที่ในทุกๆ องค์ประกอบของการเรียนวิชานี้ จึงคิดว่าน่าจะได้เกรด A
6. ถ้ามีวิชา Innovative Thinking II ท่านต้องการเรียนเนื้อหาอะไร
ผมอยากให้มีการสอนเกี่ยวกับงานออกแบบที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลก ไม่ได้จำกัดแค่เฉพาะศาสตร์ที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หรือวรรณกรรมวิทยาศาสตร์เท่านั้น อาจจะเป็นด้านศิลปะ สื่อสิ่งพิมพ์ นิยาย โฆษณา ดนตรี และอื่นๆ อะไรก็ได้ เพื่อให้ผู้เรียนรู้จักบูรณาการแนวคิดจากศาสตร์หลายๆ แขนงมาใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังแนะนำให้จัดการเรียนการสอนนอกสถานที่ให้บ่อยยิ่งขึ้น เพราะจะทำให้บรรยากาศในการเรียนเปลี่ยนแปลงไปทุกครั้ง และมีความน่าตื่นเต้นและกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของผู้เรียนมากยิ่งขึ้น
7. ถ้าท่านเป็นอาจารย์ผู้สอนวิชานี้ ท่านจะตั้งคำถามอะไรและจะตอบอย่างไร
คำถาม: ถ้าในการเรียนการสอน เปลี่ยนการฝึก Juggling เป็นการฝึกของเล่นเสริมทักษะชนิดอื่น ท่านคิดว่าควรจะเปลี่ยนเป็นอะไร
คำตอบ: ผมคิดว่าน่าจะให้ผู้เรียนลองฝึกควงปากกา เนื่องจากสามารถหาปากกามาฝึกได้เลยโดยไม่ต้องไปซื้อ นอกจากนี้ยังทำให้ผู้เรียนนำไปใช้จริงได้บ่อยกว่า เพราะไม่ว่าอยู่ที่ไหน ขอเพียงมีปากกาก็สามารถจะฝึกได้ ผมจึงคิดว่าผู้เรียนจะได้มีโอกาสฝึกฝนได้บ่อยครั้งกว่า รวมถึงประหยัดและง่ายกว่าอีกด้วย หรืออาจให้ผู้เรียนฝึกพับเครื่องบินกระดาษให้ลอยอยู่ในอากาศให้ได้นานที่สุด เป็นกิจกรรมที่นำเอาองค์ความรู้ทางวิศวกรรมมาใช้ได้จริง สำหรับผมแล้วคิดว่านี่เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจมาก